วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

เที่ยวรอบกรุงเก่า พระนครศรีอยุธยา

คำขวัญจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 ราชธานีเก่า    อู่ข้าวอู่น้ำ   
เลิศล้ำกานท์กวี   คนดีศรีอยุธยา 

ประวัติความเป็นมา


 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอดีตราชธานีของไทยมีหลักฐานของการเป็นเมืองในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ประมาณ พุทธศตวรรษที่ 16 - 18 โดยมีร่องรอยของที่ตั้งเมือง โบราณสถาน โบราณวัตถุ และเรื่องราวเหตุการณ์ในลักษณะตำนานพงศาวดาร ไปจนถึงหลักศิลาจารึก ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานร่วมสมัยที่ใกล้เคียงเหตุการณ์มากที่สุด ซึ่งเมืองอโยธยาหรืออโยธยาศรีรามเทพนคร หรือเมืองพระราม มีที่ตั้งอยู่บริเวณด้านตะวันออกของเกาะเมืองอยุธยา มีบ้านเมืองที่มีความเจริญทางการเมือง การปกครอง และมีวัฒนธรรมที่รุ่งเรืองแห่งหนึ่ง มีการใช้กฎหมายในการปกครองบ้านเมือง ฉบับ คือ   พระอัยการลักษณะเบ็ดเสร็จ    พระอัยการลักษณะทาส   พระอัยการลักษณะกู้หนี้



⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪⧪



สถานที่ท่องเที่ยว (TOURIST ATTRACTIONS)

“ วัดไชยวัฒนาราม "


ที่อยู่ : ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก  อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

วัดไชยวัฒนารามบางครั้งเรียกว่า วัดไชยยาราม” และ วัดไชยชนะทารามเป็นพระอารามหลวงในสมัยอยุธยา ซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง โปรดให้สถาปนาขึ้นเป็นวัดอรัญวาศรี ณ บริเวณที่ดินซึ่งเป็นนิวาสสถานของพระราชชนนีในปีที่ขึ้นครองราชย์ คือปีมะเมีย พ.ศ.2173 สันนิษฐานว่าเป็นวัดประจำรัชกาลด้วยต่อมาในรัชสมัยของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศได้ใช้วัดนี้ในฐานะเป็นวัดฝ่ายอรัญวาสี สำหรับพระราชทานเพลิงศพของพระราชวงศ์และขุนนางผู้สูงศักดิ์


“ วัดมหาธาตุ "


ที่อยู่ : ต.ท่าวาสุกรี  อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดมหาธาตุ สร้างในสมัยของสมเด็จพระราเมศวร เมื่อ พ.ศ. 1927 ลักษณะสถาปัตยกรรมของพระมหาธาตุ (ปรางค์) เป็นแบบแรกของสมัยอยุธยา ซึ่งมีอิทธิพลของขอม ชั้นล่างก่อสร้างด้วยศิลาแลง แต่ที่เสริมใหม่ปัจจุบันเป็นอิฐปูน สมเด็จพระเจ้าปราสาททอง ได้ปฏิสังขรณ์พระปรางค์ใหม่โดย โดยเสริมให้สูงกว่าเดิม แต่ขณะนี้ยอดพังลงมาเหลือเพียงชั้นมุขเท่านั้น เมื่อ พ.ศ. 2499 กรมศิลปากรได้ขุดแต่งพระปรางค์แห่งนี้ ได้ของโบราณหลายชิ้น ที่สำคัญคือผอบศิลา ภายในมีสถูป ชั้น แบ่งออกเป็น ชิน เงิน นาก ไม้ดำ ไม้จันทร์แดง แก้วโกเมนและทองคำ


“ วัดพนัญเชิงวรวิหาร "


ที่อยู่ : ริมแม่น้ำป่าสักทางด้านทิศใต้ ฝั่งตรงข้ามของเกาะเมือง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดพนัญเชิงวรวิหาร เป็นวัดที่พระเจ้าสายน้ำผึ้งสร้างขึ้นในปีพ.ศ 1867 ตรงที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อยดอกหมาก หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปามารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยหน้าตักกว้าง 20.17 เมตร สูง 19 เมตร พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ให้บูรณะใหม่ทั้งองค์ พร้อมถวายพระนามว่า "พระพุทธไตรรัตนายก" หลวงพ่อโตประดิษฐานในวิหารทรงสี่เหลี่ยมจตุรัสภายในมีเสากลมขนาดใหญ่ ที่หัวเสาปั้นปูนเป็นกลีบบัว เรียกว่า บัวกลุ่ม 



“ วัดใหญ่ชัยมงคล "


ที่อยู่ : ริมถนนทางหลวงหมายเลข 3059 อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดใหญ่ชัยมงคล สันนิษฐานว่าเมื่อ พ.ศ. 1900 พระเจ้าอู่ทองทรงสร้าง วัดป่าแก้ว ขึ้นตรงที่พระราชทานเพลิงศพ เจ้าแก้วเจ้าไท ในการสร้างวัดป่าแก้วได้ทรงสร้างพระเจดีย์ขึ้นคู่กับพระวิหาร ต่อมา พ.ศ. 2135 สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงเสริมพระเจดีย์ให้ใหญ่และสูงขึ้นพร้อมๆกับการ สร้างเจดีย์ยุทธหัตถีที่ตำบลหนองสาหร่ายจังหวัดสุพรรณบุรี  พระราชทานนามวัดเสียใหม่ว่า วัดชัยมงคล ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นวัดใหญ่ชัยมงคล




“ วัดมงคลบพิตร "



ที่อยู่ : อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
พระมงคลบพิตร เป็นพระพุทธรูปบุสัมฤทธิ์องค์ใหญ่องค์หนึ่งในประเทศไทย ครั้นถึงแผ่นดินของสมเด็จพระเจ้าเสือ ยอดมณฑปเกิดไฟไหม้เพราะอสนีบาตทำให้ส่วนบนขององค์พระมงคลบพิตรเสียหาย จึงโปรดให้ก่อสร้างใหม่ แปลงเป็นพระวิหารแทน เมื่อเสียกรุงครั้งที่ วิหารพระมงคลบพิตรได้ถูกไฟไหม้ พระวิหารและองค์พระพุทธรูปได้รับการปฏิสังขรณ์ใหม่ บริเวณข้างวิหารพระมงคลบพิตรทางด้านทิศตะวันออก เดิมเป็นสนามหลวง ใช้เป็นที่สำหรับสร้างพระเมรุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และเจ้านายเช่นเดียวกับท้องสนามหลวงของกรุงเทพฯ